ผนังเซลล์ยีสต์

ผนังเซลล์ยีสต์ ใช้ในครีมกันแดด LaMocha

ครีมกันแดด LaMocha ใช้ ผนังเซลล์ยีสต์ ช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรงมีสุขภาพดี

ผนังของเซลล์ยีสต์ มีสารประเภทโพลีแซคคาไรด์

ผนังของเซลล์ยีสต์ มีสารประเภทโพลีแซคคาไรด์เป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งทําหน้าที่หลากหลาย โดย พบว่าสาระสําคัญ ได้แก่ แมนแนน และ เบต้ากลูแคน มีคุณสมบัติในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของสัตว์ การเสริมผนังเซลล์ยีสต์ลงไปในอาหารสัตว์ ยังสามารถช่วยลดการเกาะจับระหว่างเชื้อแบคทีเรียก่อโรคและเยื่อบุ ทางเดินอาหารสัตว์ โพลีแซคคาไรด์ที่ผนังเซลล์ยีสต์ยังช่วยดูดซับสารพิษจากเชื้อราที่ปนเปื้อนในวัตถุดิบอาหารให้มี การขับออกไปพร้อมกับมูลสัตว์ ทําให้สัตว์ได้รับอันตรายจากเชื้อก่อโรคและพิษจากเชื้อราลดลง นอกจากนั้นผลของผนังเซลล์ยีสต์มีคุณสมบัติในการเป็นสารส่งเสริมชีวนะ ซึ่งมีความสําคัญในการทําให้สัตว์สุขภาพดี ดังนั้นการเสริมผนังเซลล์ยีสต์ลงในอาหารสัตว์ ส่งผลให้สัตว์มีสุขภาพดี ลดการเกิดโรค และส่งผลให้สัตว์มีประสิทธิภาพดีขึ้นด้วย 

ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดี

องค์ประกอบของผนังเซลล์ยีสต์ ได้แก่

ครีมกันแดด pantip

  • แคปซูล (capsule)
    ยีสต์บางชนิดมีสารเมือก เหนียว ที่ขับออกสู่ภายนอกเซลล์ที่เรียกว่าแคปซูล แคปซูลส่วนใหญ่ประกอบด้วยโพลีแซ็กคาไรด์ ซึ่งมีทั้งเฮเทอโรพอลิแซ็กคาไรด์ แมนโนส(mannose) และสารที่คล้ายแป้ง
  • ผนังเซลล์ (cell wall)
    ผนังเซลล์ของยีสต์จะบางในเชื้ออายุน้อยและจะหนาขึ้นตามอายุ องค์ประกอบส่วนใหญ่ของผนังเซลล์ของ S.cerevisiae มีโพลีแซ็กคาไรด์ 2 ชนิด คือ กลูแคน (glucan) 30-34 % และแมนแนน (mannan) 30 % กลูแคน (ประกอบด้วย ดี-กลูโคส) เป็นโพลีแซ็กคาไรด์ที่พบในยีสต์ต่างๆ แต่แมนแนน (ประกอบด้วย ดี-แมนโนส) จะไม่พบในผนังเซลล์ของ Schizosaccharomyces, Nadsonia, Rhodotorual และราที่มีเส้นใยทุกชนิด ผนังเซลล์ของยีสต์มีโปรตีนประกอบอยู่ด้วย โปรตีนบางชิดทำหน้าที่เป็นเอนไซม์ ไขมันมีอยู่ 8.5 – 13.5 % ปริมาณไคติน (chitin) เปลี่ยนแปลงไปตามชนิดของยีสต์
  • เยื่อหุ้มเซลล์ (cell membrane)
    เยื่อหุ้มเซลล์มีความหนาประมาณ 8 ไมโครเมตร ประกอบด้วยชั้น 3 ชั้น ที่ทึบต่อแสงอิเล็กตรอน 2 ชั้น คือ ชั้นนอกและชั้นในสุด เยื่อหุ้มเซลล์ประกอบด้วยไขมัน (รวมทั้งฟอสโฟลิพิด) โปรตีน และ โพลิแซ็กคาไรด์
  • โพรโทพลาซึม (protoplasm)
    เซลล์ยีสต์ประกอบด้วยไซโทพลาซึม ซึ่งเป็นสารกึ่งเหลว ภายในมีไรโบโซมที่มี RNA มาก และออร์แกเนลล์ที่มีเยื่อหุ้ม ได้แก่ เอนโดพลาสมิกเรติคิวลัม ซึ่งเชื่อมตอดต่อกับเยื่อหุ้มนิวเคลียสชั้นนอก และอาจติดต่อกับเยื่อหุ้มเซลล์ด้วย ในไซโทพลาซึมมีเอ็นไซม์หลายชนิด
  • นิวเคลียส (nucleus)
    เป็นออร์แกเนลล์ที่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียสล้อมรอบ เยื่อหุ้มนิวเคลียสมีสมบัติยอมให้สารบางอย่างผ่านได้เท่านั้น (semipermeable membrane) นิวเคลียสมีหน้าที่เกี่ยวกับเมแทบอลิซึม และการสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต
  • ไมโทคอนเดรีย (mitochondria)
    เป็นออร์แกเนลล์ที่มีเยื่อหุ้ม มีลักษณะคล้ายเส้นด้ายพับกันอยู่ ไมโทคอนเดรียมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.3-1 โครเมตร และความยาวถึง 3 ไมโครเมตร มีเยื่อหุ้มสองชั้น ชั้นในจะพับเว้าเข้าข้างในเป็นคริสตี (cristae) ไมโทคอนเดรียประกอบด้วยลิโพโปนตีนจำนวนมาก และมี RNA และ DNA เล็กน้อย DNA นี้ต่างจาก DNA ของนิวเคลียส เนื่องจากไมโทคอนเดรียมีเอ็นไซม์เกี่ยวกับการหายใจ จึงเรียกว่าเป็นแหล่งพลังงานของเซลล์
  • แวคิวโอล (vacuole)
    ภายในเซลล์ยีสต์จะมีแวคิวโอลอยู่หนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งแวคิวโอล ซึ่งมองเห็นได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์ธรรมดาเมื่อย้อมสี ในเซลล์ที่กำลังเจริญเติบโตภายในแวคิวโอลจะไม่มีโครงสร้างที่เป็นชิ้นส่วน แต่เมื่อเซลล์เข้าสู่ระยะ “stationary phase” แวคิวโอลจะมีสารแกรนูลเพิ่มขึ้น อาจเป็นเมตาฟอสเฟต (metaphosphate) พอลิฟอสเฟต (polyphosphate) หรือลิพิด สารที่อยู่ในแวคิวโอลที่เคยแยกได้ ได้แก่ เอนไซม์ที่เกี่ยวกับการไฮโดรไลซ์ปฏิกิริยาต่างๆ เช่น โปรตีนเอส (protease) ไรโบนิวคลีเอส (ribonuclease) และเอสเทอเรส (esterase) จากการที่พบเอ็นไซม์ไฮโดรเลสในแวคิวโอล จึงคิดว่าแวคิโอลเปรียบเหมือนไลโซโซม
  • อินคลูชันต่างๆ (inclusion)
    เซลล์ยีสต์ที่แก่จะมีผนังเซลล์หนาขึ้นและสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้ เช่น ความร้อน ความแห้งแล้ง และสารเคมี ยีสต์บางชนิดสะสมสารต่างๆไว้จำนวนมาก เช่น ไขมัน คาร์โบไฮเดรต หรือโปรตีน บางชนิดมีรงควัตถุมีเหลือง ส้ม ชมพู น้ำตาลหรือดำ รงควัตถุเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นคาโรทีนอยด์ที่ละลายในไขมัน นอกจากนี้รงควัตถุ เช่น ไซโตโครม เฟลวิน ฮีโมโกลบิน และอื่นๆ ที่พบในเซลล์พืชและสัตว์ชั้นสูง ก็พบในยีสต์ด้วย

สรุป

ครีมกันแดด LaMocha ใช้ ผนังเซลล์ยีสต์ การกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ดูดซับสารพิษจากเชื้อรา เกาะจับเชื้อก่อโรค สารส่งเสริมชีวนะ ซึ่งจะทำให้ครีมกันแดด ช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรงมีสุขภาพดี